วันแรก กรุงเทพฯ – พุทธคยา ä(-/กลางวัน/เย็น)
05.30 น. พร้อมกันที่ สนามบินดอนเมืองอาคารผู้โดยสารขาออก 1 ชั้น 3 เคาน์เตอร์สายการบินไทยแอร์เอเชีย ประตู 4 โดยมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกแก่ทุกท่าน
08.20น.ออกเดินทางสู่ เมืองพุทธคยา ประทศอินเดิย โดยเที่ยวบินที่FD122(**มีบริการอาหารบนเครื่อง)
10.10 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานสนามบินคยา เมืองพุทธคยา ประเทศอินเดีย นำท่านผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองเป็นที่เรียบร้อย พบการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากเจ้าหน้าที่(**เวลาท้องถิ่นของประเทศอินเดียช้ากว่าประเทศไทยประมาณ 1.30 ชั่วโมง กรุณาปรับนาฬิกาของท่านเพื่อสะดวกในการนัดหมาย)
เที่ยง äบริการอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้น เดินทางสู่ นำท่านสู่หมู่บ้านนางสุชาดา(Sujata Village)มีลักษณะเป็นกองอิฐเนินสูง ซึ่งนางสุชาดาเป็นผู้ที่ถวายข้าวมธุปายาสให้กับพระพุทธเจ้าก่อนตรัสรู้ระหว่างทางก็จะผ่านแม่น้ำเนรัญชร(Niranjana River)ปัจจุบันเรียกว่า Falgu River หรือ PhalguRiver เป็นแม่น้ำที่ถ้าฝนหยุดตก น้ำในแม่น้ำก็จะแห้งไปอย่างรวดเร็ว และจะอยู่ในสภาพที่แห้ง สามารถเดินข้ามได้อย่างสบาย
จากนั้น นำท่านเดินทางสู่พุทธคยา หรือ วัดมหาโพธิ์(Mahabodhi Temple)ที่เป็นจุดกำเนิดของศาสนาพุทธ เพราะเป็นสถานที่ที่เจ้าชายสิทธัตถะ ได้ตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่นี่เป็นเวลา 2,500 กว่าปีมาแล้ว เมื่อพระพุทธองค์ได้ตรัสรู้แล้ว พระองค์ก็ได้ประทับอยู่ ณ พุทธคยา เพื่อเสวยวิมุตติสุข (ความสุขอันเกิดจากความหลุดพ้น) อยู่ 7 สัปดาห์ โดยมี ต้นพระศรีมหาโพธิ์ เป็นต้นไม้แห่งการตรัสรู้ มีทั้งหมด 4 ต้น นับเป็นอนุสรณ์สถานอันทรงคุณค่าและสถานที่แห่งนี้ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ประเภทมรดกทางวัฒนธรรม ขององค์การยูเนสโกอีกด้วย
เย็น äบริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ที่พัก DHAMMAOR MAHABODHI HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาวที่เมืองพุทธคยา
วันที่สอง พุทธคยา – พาราณสี ä(เช้า/กลางวัน/เย็น)
เช้า äบริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้น เดินทางสู่ เมืองพาราณสี(ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ7 ชั่วโมง)เป็นเมืองที่มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 4,000 ปี เป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศอินเดียและยังจัดเป็นเมืองที่มีผู้อยู่อาศัยต่อเนื่องยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์โลกอีกด้วย
เที่ยง äบริการอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้น นำท่านชม สังเวชนียสถาน สารนาถเป็นพุทธสังเวชนียสถานแห่งที่ 3เดิมมีชื่อว่า“ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน” สักการะ ธรรมเมกสถูปสถานที่ที่พระพุทธองค์ทรงแสดงปฐมเทศนาโปรดปัญจวัคคีย์ ลวดลายดอกไม้ที่รอบองค์พระสถูป เป็นศิลปะของยุคคุปตะแต่การสำรวจพบว่า แผ่นอิฐข้างในพระสถูปเป็นของยุค เมารยัน จึงสันนิษฐานไว้ว่า สร้างขึ้นในรัชสมัยของพระเจ้าอโศกนำชมเสาพระเจ้าอโศก สร้างขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ ที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงพระปฐมเทศนาประกอบด้วยทางแห่งความสงบและความหลุดพ้น บนยอดเสาจะเป็นรูปสิงค์ 4 ตัว เสามีฐานบัวคว่ำ และฐานเสาทั้ง 4 ด้าน สลักเป็นธรรมจักรและรูปช้าง ม้า โค และสิงค์
เย็น äบริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้น นำท่านล่องเรือสู่แม่น้ำคงคาชมความสวยงามของเมืองพาราณสี และชมพิธีคงคาอารตี(Ganges Aarti)หรือที่เรียกอีกอย่างว่า พิธีบูชาไฟ เป็นพิธีกรรมหนึ่งที่ปฎิบัติกันมาแต่โบราณ เป็นการแสดงความเคารพสูงสุดต่อพระแม่คงคา แต่ไม่เพียงแค่บูชาไปเท่านั้น ยังมีหลายอย่างที่ใช้ในการประกอบพิธี เช่น สังข์, ระฆัง, ธูป, ภาชนะหรือหม้อใส่น้ำ,การบูร, ดอกไม้, กำยาน, ตะเกียงน้ำมันฆี,พัดขนนกยูง และแส้หางจามรี เป็นต้น (พิเศษ! กระทงลอยขอพรแม่น้ำคงคา)
ที่พัก AMAYA OR COSTA RIVIERA HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว ที่เมืองพาราณสี
วันที่สาม พาราณสี – ลุมพินี (เนปาล) ä(เช้า/กลางวัน/เย็น)
เช้า äบริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองลุมพินี (เนปาล) ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ10ชั่วโมง
เที่ยง äบริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางจากประเทศอินเดีย ผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมือง สู่ประเทศเนปาล
(**กรุณาเตรียมหนังสือเดินทางเพื่อประทับตราออกจากประเทศอินเดียค่ะ**)
เย็น äบริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ที่พัก PAWANOR NEW CRYSTALHOTEL หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาวที่เมืองลุมพินี (เนปาล)
วันที่สี่ ลุมพินี (เนปาล)–กุสินารา ä(เช้า/กลางวัน/เย็น)
เช้า äบริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้น นำท่านสู่ ลุมพินีวัน หรือปัจจุบันเรียกว่า รุนมินเด เป็นพุทธสังเวชนียสถานแห่งแรก เป็นสถานที่ที่พระนางสิริมหามายาประสูติเจ้าชายสิทธัตถะ เมื่อวันศุกร์ วันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ปีจอ ก่อนพุทธศักราช 80 ปี ซึ่งโดยรอบลุมพินีวันนั้น มีซากอิฐเก่า สระโบกขรณี ซึ่งมีลักษณะเป็นสระทรงสี่เหลี่ยมพื้นผ้า เป็นสระที่พระนางสิริมหามายาได้ทรงสรงสนาม(อาบน้ำ) ชำระพระวรกายในวันประสูติเจ้าชายสิทธัตถะ และวิหารมายาเทวี(Mayadevi Temple) สร้างเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่พระนางสิริมหามายา โดยภายในวิหารเป็นจุดที่พระพุทธเจ้าทรงย่างพระบาทแรกหลังออกจากครรภ์พระราชมารดา ตัววิหารสูง 3 เมตร และมีบันไดขึ้น-ลงได้ 2 ด้าน ภายในยังมีภาพหินทรายแกะสลักรูปพระประสูติกาลของเจ้าชายสิทธัตถะ และภาพเจ้าชายสิทธัตถะยืนอยู่องค์เดียว และบริเวณด้านข้างประดิษฐาน “เสาศิลาจารึกของพระเจ้าอโศกมหาราช” หรือ เสาอโศก(Ashokan Pillar)พบว่าที่เสาอโศกนั้น จารึกอักษรพราหมที่มีความหมายว่า “พระพุทธเจ้าประสูติที่นี่” ซึ่งลุมพินีวันแห่งนี้ยังได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมจากองค์การยูเนสโกในปี พ.ศ.2540 อีกด้วย
จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ เมืองกุสินารา ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง
เที่ยง äบริการอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้น นำท่าน ชมสังเวชนียสถาน เมืองกุสินาราเป็นเมืองเอกหนึ่งในสองของแคว้นมัลละ อยู่ตรงข้ามฝั่งแม่น้ำคู่กับ
เมืองปาวา เป็นที่ตั้งของ สาลวโนทยาน หรือป่าไม้สาละ ที่พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพานและเป็นสถานที่ถวายพระเพลิงพระพุทธเจ้า ชม มหาปรินิพพานวิหาร(Mahaparinirvana Temple)ภายในประดิษฐาน “พระพุทธรูปปางปรินิพพาน” อยู่บนพระแท่นทำด้วยหินทรายแดง ประทับนอนบรรทมตะแคงขวา โดยหันพระพักตร์ไปทางทิศตะวันตก นำท่านชม มหาปรินิพพานสถูปตั้งอยู่ทางด้านหลังของ มหาปรินิพพานวิหาร ลักษณะเป็นสถูปทรงโอคว่ำขนาดใหญ่ บรรจุพระบรมสารีริกธาตุเอาไว้ จากนั้น ชม มกุฏพันธนเจดีย์(Ramabhar Stupa)ตั้งอยู่ถัดจาก มหาปรินิพพานสถูป ป็นสถานที่ถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระของพระพุทธเจ้า
เย็น äบริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ที่พัก OM RESIDENCY OR MAITREY HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาวที่เมืองกุสินารา
วันที่ห้า กุสินารา – เวสาลี – ปัตนะ ä(เช้า/กลางวัน/เย็น)
เช้า äบริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองปัตนะ ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 8 ชั่วโมง
เที่ยง äบริการอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านสู่เมืองเวสาลีเป็นชื่อของเมืองหลวงของแคว้นวัชชี เป็นศูนย์กลางการเผยแผ่พระพุทธศาสนาที่สำคัญรวมถึงเป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรืองอย่างมากในสมัยพุทธกาล แต่ในปัจจุบัน แคว้นวัชชี เป็นอำเภอเวสาลี เป็น 1 ใน 14 อำเภอขึ้นตรงกับรัฐพิหาร ประเทศสาธารณรัฐอินเดีย โดยพระพุทธเจ้าเคยเสด็จเยี่ยมเมืองแห่งนี้ในปีที่ 5 หลังการตรัสรู้ นำท่านชม เสาอโศกรูปสิงค์ ณวัดป่ามหาวันซึ่งถือว่าที่แห่งนี้เป็นเสาสิงค์ที่สมบูรณ์ที่สุด จากนั้น นำท่านเดินทางต่อไปยังเมืองปัตนะ
เย็น äบริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ที่พัก PANACHE OR PATLIPUTRA HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาวที่เมืองปัตนะ
วันที่หก ปัตนะ – นาลันทา –ราชคฤห์ –พุทธคยา ä(เช้า/กลางวัน/เย็น)
เช้า äบริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ มหาลัยนาลันทา(Nalanda University)มหาวิทยาลัยสงฆ์แห่งแรกของโลก สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช โดยมีจุดประสงค์ให้เป็นสถานศึกษาของพระภิกษุในพระพุทธศาสนามีการสอนในหลากหลายวิชา ทั้ง พุทธปรัชญา พระไตรปิฎก วรรณคดี แพทยศาสตร์ เป็นต้น มีพระสงฆ์จากต่างประเทศเดินทางมาศึกษาที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้เป็นจำนวนมาก แต่ครั้ง พ.ศ.1742 มหาลัยนาลันทานั้นถูกเข้าใจว่าเป็นป้อมปราการขนาดใหญ่ จึงถูกทหารชาวมุสลิมเติร์กเข้าทำลาย ทำให้คัมภีร์ ทางศาสนาถูกเผาทั้งหมด
เที่ยง äบริการอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้น นำท่านสู่ ที่คุมขังพระเจ้าพิมพิสาร เป็นสถานที่สำคัญในประวัติศาสตร์ทางพระพุทธศาสนามีลักษณะเป็นซากฐานกำแพงสูงประมาณ 6 ฟุตล้อมรอบบริเวณ ซึ่งจากจุดนี้สามารถมองเห็นพระคันธกุฎีบนยอดเขาคิชฌกูฏอันสวยงามได้อีกด้วยนำท่านสู่ วัดเวฬุวันมหาวิหาร(Venuvan Vihara)หรือ พระวิหารเวฬุวันกลันทกนิวาปสถาน หมายถึง วัดสวนป่าไผ่ เป็นวัดแห่งแรกในพระพุทธศาสนา ตั้งอยู่ใกล้เชิงเขาเวภารบรรพต บนริมฝั่งแม่น้ำสรัสวดีซึ่งมีตโปธาราม (บ่อน้ำร้อนโบราณ)และวัดนี้ยังเป็นสถานที่พระพุทธเจ้าแสดงโอวาทปาติโมกข์แก่พระสาวกจำนวน 1,250 รูป ซึ่งในปัจจุบันยังคงเป็นซากโบราณสถานในสวนไผ่ที่ร่มรื่น จากนั้นนำท่านสู่ตโปธาราม เป็นบ่อน้ำร้อนโบราณ(Hot Water Spring)อันศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาพราหมณ์ที่มีอายุมากกว่า 2,000 ปีเป็นที่อาบน้ำสาธารณะของวรรระต่างๆ วิธีการอาบจะแบ่งเป็นชั้นๆตามวรรณะสูงต่ำเชื่อกันว่าการอาบน้ำ ณ ที่แห่งนี้จะสามารถชำระบาปและรักษาโรคได้จากนั้น เดินทางสู่ เขาคิชฌกูฏ(Girdhkut Cave)มีลักษณะเป็นภูเขาที่เอียงลาดยาวขึ้น และเป็นลานกว้าง จุดเด่นที่น่าสนใจคือ อิฐปรักหักพังลักษณะทรงสี่เหลี่ยม ซึ่งเป็นที่ประทับของพระพุทธเจ้าก่อนเสด็จดับขันปริพนิพพาน และกุฏิวิหารสำหรับพระภิกษุสงฆ์อีกหลายท่าน และยังเป็นสถานที่ที่เงียบสงัด และเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจให้กับผู้คนที่มาศักการะ
จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ เมืองพุทธคยา
เย็น äบริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ที่พัก DHAMMA OR MAHABODHI HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาวที่เมืองพุทธคยา
วันที่เจ็ด พุทธคยา – กรุงเทพฯ ä(เช้า/-/-)
เช้า äบริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ได้เวลาอันสมควร เดินทางเข้าสู่สนามบินคยา เมืองพุทธคยา
10.40 น. ออกเดินทางกลับกรุงเทพฯโดยเที่ยวบินที่FD123(**มีบริการอาหารบนเครื่อง)
14.50 น. เดินทางถึง สนามบินดอนเมืองกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจมิรู้ลืม
********************************************************
อัตราค่าบริการและเงื่อนไขรายการท่องเที่ยว
ตาราง ราคา อินเดีย เนปาล บินแอร์เอเชีย(FD)7 วัน 6 คืน
|
เริ่มเดินทาง
|
กลับจากเดินทาง
|
จำนวน
|
ผู้ใหญ่
|
เด็กมีเตียง
|
เด็กไม่มีเตียง
|
พักเดี่ยว
|
04 พ.ย. 62
|
10 พ.ย. 62
|
24+1
|
25,900
|
25,900
|
24,900
|
6,000
|
25 พ.ย. 62
|
01 ธ.ค. 62
|
24+1
|
32,900
|
32,900
|
31,900
|
6,000
|
16 ธ.ค. 62
|
22 ธ.ค. 62
|
24+1
|
26,900
|
26,900
|
25,900
|
6,000
|
30 ธ.ค. 62
|
05 ม.ค. 63
|
24+1
|
27,900
|
27,900
|
26,900
|
6,000
|
13 ม.ค. 63
|
19 ม.ค. 63
|
24+1
|
26,900
|
26,900
|
25,900
|
6,000
|
27 ม.ค. 63
|
02 ก.พ. 63
|
24+1
|
26,900
|
26,900
|
25,900
|
6,000
|
มปลอดภัย รวมถึงผลประโยชน์สูงสุดของลูกค้าเป็นสำคัญ