ทัวร์หมู่ถ้ำอะชันต้า เอลโรล่า ถ้ำเอเลแฟนต้า
4 วัน 3 คืน

มาสองท่านเดินทางได้ทันทีเพียงท่านละ 17,900.- บาท ( ราคาทัวร์ยังไม่รวมตั๋วเครื่องบิน)

วันแรก กรุงเทพฯ – เดลลี – ออรังคบาต  D    D=Dinner ( AI333 08.50-12.05 )

06.00  เช็คอินพร้อมกระเป๋าสัมภาระ ณ สนามบินสุวรรณภูมิ …..สายการบินแอร์อินเดีย เที่ยวบินที่
           AI333 BKK-DEL 08.50-12.05
08.50  บินตรงสู่กรุงเดลลี ประเทศอินเดีย
12.05  ถึงสนามบินเดลลี ประเทศอินเดีย รอเปลี่ยนเครื่องเพื่อเดินทางสู่เมืองออรังคบาต เที่ยวบินที่
            AI441 DEL-IXU 15.00-16.45
15.00  บินตรงสู่เมืองออรังคบาตตามเวลาท้องถิ่น
16.45  ถึงสนามบินออรังคบาต มัคคุเทศก์ท้องถิ่นรอรับท่าน ณ ทางออกสนามบินนำท่านเดินทางเข้าสู่
            ที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย
18.00  รับประทานอาหารเย็น ณ โรงแรมที่พัก / พักผ่อนตามอัธยาศัย /โรงแรม Keys Hotel ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า

วันที่สอง ออรังคบาต  หมู่ถ้ำอะชันต้า   BLD

07.00  รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
08.00  ออกเดินทางเพื่อชม หมู่ถ้ำอะชันต้า ระยะทาง 105  กิโลเมตร ทางตะวันออกเฉียงเหนือ นั่งรถประมาณ 3 ชั่วโมง
11.00  บริการอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหาร ก่อนนำท่านเข้าสู่เขตหมู่ถ้ำอะชันต้า( ไม่อนุญาตให้นำอาหารเข้าไปข้างในเขตถ้ำได้ )
12.00  นำชม หมู่ถ้ำอะชันต้า ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก้ในปี พ.ศ. 2526 เมื่อเดินทางมาถึงเขตอุทยาน
บริเวณลานจอดรถบัส ท่านจะต้องลงจากรถและเปลี่ยนไปนั่งรถบัสสาธารณะของทางอุทยานประมาณ 15 นาที
หมู่ถ้ำอะชันต้า ซึ่งที่จริงก็คือวัดในพุทธศาสนา ที่เจาะและแกะสลักเข้าไปในภูเขาอยู่ เรียงกันเป็นหมู่รวม  30 ถ้ำ เป็นถ้ำยุคแรก
เก่าแก่มาก มีกำเนิดเริ่มแต่ก่อนคริสต์ศักราช ประมาณ 200 หรือ 150 ปี คือราวพ.ศ. 350 หรือ 400 และคาดว่าสร้างมาถึงปี พ.ศ. 1200
และถูกทอดทิ้งกลายเป็นป่ารกชัฏประมาณ 700 – 800 ปี จน มาถูกค้นพบอีกครั้งโดยบังเอิญในปี พ.ศ. 2312  (ค.ศ.1819 ) โดยทหาร
อังกฤษที่มาล่าสัตว์ซึ่งเท่ากับ ได้ค้นพบสิ่งมหัศจรรย์ของโลก หมู่ถ้ำอะชันต้าเป็นถ้ำพุทธศาสนาล้วนๆ แบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกเป็น สาย หีนยาน
หรือ เถรวาท มีถ้ำที่เก่าแก่จำนวน 6 ถ้ำคือ ถ้ำที่ 8,9,10,12,13 และ 15 ซึ่งเป็นหมู่ถ้ำที่เก่าแก่ที่สุดประมาณ พ.ศ.400-600 ส่วนที่เหลือจากนั้น
อีก 24  ถ้ำเป็นสายมหายาน หลายถ้ำก็เป็นแบบ ผสมคือเป็นของหีนยานแต่เดิม แล้วฝ่ายมหายานมา เติมแต่งทีหลัง  ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดระหว่าง
ถ้ำ เถรวาท กับ ถ้ำมหายาน ก็คือ ในพุทธศาสนาเถรวาทยุคแรกนั้นไม่มีพระพุทธรูป มีแต่พระสถูป  ต่อมา ตอนหลังๆ  ก็มีพระพุทธรูปชัดเจนขึ้น
ชมความมหัศจรรย์อลังการสร้างจากศรัทธาของ ชาวอินเดีย ภายในถ้ำสลักเสลาเป็น เสาประดับลวดลายอันงดงาม พระพุทธรูป และเจดีย์ศิลาที่สกัด 
และตบแต่งขึ้น จากหินชิ้นเดียวกับพื้น และผนังถ้ำภาพ จิตรกรรมฝาผนังอายุกว่า ๑๒๐๐ ปีมีความงดงามสมบูรณ์ด้วยเทคนิคการเขียนภาพสามมิติ
อันน่าอัศจรรย์ พระพุทธรูปศิลาที่แสดงอารมณ์พระพักตร์ต่างกัน เมื่อแสงตกสะท้อนจากต่างมุม 

16.00   นำท่านสู่เดินทางกลับสู่เมืองออรังคบาต
19.00  รับประทานอาหารค่ำภายในโรงแรม / พักผ่อนตามอัธยาศัย /Keys Hotel 4 ดาว หรือเที่ยบเท่า

วันที่สาม หมู่ถ้ำเอลโรล่า มินิทัชมาฮาล ป้อมดาดาตาบัต มุมไบ  BLD

06.00 รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก พร้อมกระเป๋าสัมภาระ
07.00 เดินทางสู่ หมู่ถ้ำเอลโรร่า สร้างใน ค.ศ. 600-1000 หรือ พ.ศ. 1100-1400 หมู่ถ้ำนี้เป็นวัด และ  
ศาสนาสถานเจาะเข้าไปในภูเขา  เช่นเดียวกับหมูถ้ำอะชันต้า แต่สร้างขึ้นในสมัยหลัง  หมู่ถ้ำนี้มีถึง 3 ศาสนา คือ พุทธฮินดู และ เชน
มีทั้งหมด 34 ถ้ำ  และเป็นถ้ำพุทธอยู่ชุดแรก เริ่มจากทิศใต้ถ้ำ 1 ถึง 12   ถ้ำ 13 ถึง 29  เป็นถ้ำของศาสนาฮินดู รวม 17 ถ้ำ และถ้ำ 30-34 อีก 5 ถ้ำ 
เป็นถ้ำของศาสนาเชน หรือศาสนามหาวีระในบรรดาหมู่ถ้ำทั้งหมด เทวาลัยถ้ำเขาไกรลาสKailasanatha Temple ) นับเป็นเพชรน้ำเอก  (ถ้ำ 16 ) การแกะสลัก
จะทำจากด้านบนสุด แล้ว ค่อยๆไล่ลงมา นับเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ชมภาพแกะสลักอย่างวิจิตรงดงามของเหล่าทวยเทพ ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นรูปองค์พระศิวะ 
พระพรหม  พระนารายณ์ พระพิฆเนศ ช้างเอราวัณตลอดทั้งเหล่านางเทพ  อัปสร และอีกมากมาย

เที่ยง  รับประทานอาหารกลางวัน
บ่าย   ท่านเดินทางไปชม มินิทัชมาฮาล หรือ บีบี กา มักบารา (Bi Bi Ka Maqbara) สร้างเพื่อเป็อนุสรณ์แห่งความรัก สร้างโดยพระโอรสของออรังเซบ
ทรงสร้างเพื่อรำลึกถึงพระมารดา(พระนาง บีกัมราเบีย อุเด ดาราณี)สถาปัตยกรรมแบบเปอร์เซียจากนั้นชม“ป้อมเดาลาตาบัด”  Daulatabad 
ป้อมปราการโบราณรอบภูเขาดัลคีรี ซึ่งเคย เป็นเมือง หลวงของ ราชวงศ์ยารวะและถูกกษัตริย์อลาอุดดินคัลจิ ชาวมุสลิมยึดได้ใน พ.ศ. 1839 กลายเป็นเมืองหลวงอินเดียภายใต้ 
การปกครองของกษัตริย์มุสลิมอยู่พักหนึ่ง ก่อนถูกทิ้งร้างย้ายไปสร้างเมืองออรังกา บัด  ชมซากมัสยิดที่ยังเหลือซากเสาจำนวน 106 ต้น ชมป้อมปราการ พระราชวังบนเสาอายุ
กว่า 700 ปี ได้เวลาพอสมควรนำท่านเดินทางไปสนามบินออรังคบาตเพื่อเดินทางไปยังมุมไบ

17.20 บินสู่เมืองมุมไบ
18.10 ถึงสนามบินมุมไบ นำท่านไปรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / พักผ่อนตามอัธยาศัย  Kohinoor Hotel ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า

วันที่สี่ มุมไบ ถ้ำเอเลเฟนต้า สนามบินมุมไบ กรุงเทพฯ

เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
สาย ออกเดินทางสู่ เกาะเอเลเฟนต้า  นำท่านนั่งเรือเฟอรี่ไปยังเกาะเอเลเฟนต้าประมาณ 45 นาทีเมื่อไปถึงเกาะเดินเข้าไปถึงปากทางอีกประมาณ 5 กิโลเมตร
เพื่อชมเทวาลัยถ้ำอันอลังการ  ถ้ำเอเลเฟนต้า  ถูกขุดเจาะในศตวรรษที่ 7 และ 8 งานประติมากรรมชิ้นเอกเป็นเทวรูปพระศิวะครึ่งองค์ สูง 5 เมตร มีสามเศียร
แสดงปางผู้สร้าง ผู้รักษา และผู้ทำลาย ด้านในจะแบ่งออกหอหลัก ที่มีเสาล้อมประมาณ 36 เสาและมีภาพแกะสลักที่เกี่ยวกับพระศิวะในรูปแบบ
ต่าง ๆ และยังมีถ้ำอื่นๆ อีกมากแยกเป็นห้อง ๆ นำท่านชม ถ้ำกันเหรี    ซึ่งอยู่ในอุทยานแห่งชาติ Sanjay Gandhi หรือชื่อเดิม  Borivali National  Park
ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ ระยะทาง 42 ก.ม.จากมุมไบ  คำว่า "Kanheri" ซึ่งเป็นชื่อของถ้ำนั้น มา จากภาษาสันสกฤตคำว่า "Krishnagiri"
ซึ่งหมายถึงภูเขาสีดำ สร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 2 ถึง 9  ถ้ำ แห่งนี้มีจำนวนทั้งหมด 107 ห้องซึ่งแต่งละห้องก็มีเรื่องราวความสำคัญต่างกันไป ถ้ำที่โดดเด่นคือ ถ้ำหมายเลข 3

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ( ปกติอาหารกลางวันจะทานสาย 14.00 น .)
บ่าย  นำท่านชม Prince of Wale Musium เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงของมุมใบจัดแสดงเครื่องศาสตราวุธ ในแต่ละยุคสมัย ,
พระพุทธรูปแกะสลักหิน,เครื่องสำฤทธิ์ ฯลฯ อิสระเพื่อช้อปปิ้งที่ Crawford market ย่านชอปปิ้งของมหานครมุมไบ ไปจนถึงเวลาอาหารเย็น

ค่ำ  บริการอาหารค่ำ จากนั้นนำท่านเดินทางไปยังสนามบินมุมไบเพื่อเช็คอินเตรียมตัวเดินทางไปเมืองไทย
22.00  เช็คอินพร้อมกระเป๋าสัมภาระ
01.35  ออกเดินทางสู่เมืองไทยโดยสายการบินแอร์อินเดียเที่ยวบินที่ AI330 BOM-BKK มุมไบ- กรุงเทพฯ 01.35-07.20
07.20  ถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพตามเวลาท้องถิ่น