PRO HOKKAIDO SNOW FESTIVAL 6D4N
วันที่1 กรุงเทพ-สนามบินสุวรรณภูมิ
20.30 น. คณะพร้อมกัน ณ อาคารผู้โดยสารขาระหว่างประเทศชั้น4สนามบินสุวรรณภูมิประตูทางเข้าหมายเลข 2 เคาน์เตอร์เช็คอิน D สายการบินไทยโดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทรอให้การต้องรับ พร้อมทั้งแจกเอกสารในการเดินทางและอำนวยความสะดวก
23.55 น. ออกเดินทางสู่สนามบินชิโตเซ่ โดยสายการบินไทยเที่ยวบินที่ TG670
(ใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 6.50 ชั่วโมง)
วันที่2 ชิโทเสะ –โนโบริเบ็ตสึ–หุบเขานรกจิโกกุดานิ–เมืองฮาโกดาเตะ-นั่งกระเช้าชมวิว ณ ภูเขาฮาโกดาเตะ-ชมIllumination Hakodate
08.30 น. เดินทางถึงสนามบินชิโทเซ่ เกาะฮอกไกโด หลังผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองแล้ว (เวลาที่ญี่ปุ่น เร็วกว่าเมืองไทย 2 ชั่วโมงกรุณาปรับนาฬิกาของท่านเพื่อความสะดวกในการนัดหมายเวลา)
***สำคัญมาก!! ประเทศญี่ปุ่นไม่อนุญาตให้นำอาหารสด จำพวก เนื้อสัตว์ พืช ผัก ผลไม้ เข้าประเทศ หากฝ่าฝืนมีโทษปรับและจับ ***
นำทางสู่ เมืองโนโบริเบ็ตสึสถานตากอากาศและน้ำแร่ที่มีชื่อเสียงที่สุดของเกาะฮอกไกโด ซึ่งมีน้ำร้อนที่แตกต่างกัน 11 ชนิด นับเป็นน้ำร้อนที่ดีและมีประสิทธิภาพมากที่สุดของญี่ปุ่น ภายในเมืองแห่งนี้เต็มไปด้วยโรงแรม และที่พักสไตล์ญี่ปุ่นเรียวกังมากมาย นำท่านชม จิโกกุดานิหรือ หุบเขานรกซึ่งเกิดจากภูเขาไฟที่ยังไม่ดับถูกปกคลุมไปด้วยหมอกควันและกลิ่นของกำมะถัน ชมบ่อน้ำพุร้อนและบ่อโคลนเดือดอันเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่ยังคงอยู่
เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยงณ ภัตตาคาร (1)
นำท่านเดินทางสู่ เมืองฮาโกดาเตะ(Hakodate)เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของภูมิภาคฮอกไกโด ตั้งอยู่ปลายสุดทางตอนใต้ของเกาะ มีชื่อเสียงด้านทิวทัศน์ที่สวยงามของภูเขาฮาโกดาเตะ และอาหารทะเลสดใหม่ ในอดีตเป็นเมืองหนึ่งที่มีท่าเรือสำหรับเปิดการค้าระหว่างประเทศในช่วงหลังจากยุคแยกประเทศ เมืองฮาโกดาเตะได้รับอิทธิพลจากต่างประเทศเป็นอย่างมาก มีย่านที่อยู่อาศัยของชาวต่างประเทศ และป้อมสไตล์ตะวันตก
จากนั้นนำท่าน นั่งกระเช้าเดินทางสู่ยอดเขาฮาโกดาเตะ(Mount Hakodate) มีความสูง 334 เมตร ตั้งอยู่ในป่าทางตอนใต้ของปลายคาบสมุทรใกล้ใจกลางเมืองฮาโกดาเตะ ในวันที่ท้องฟ้าโปร่งทั้งกลางวันและกลางคืน สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ที่งดงาม นับเป็นจุดชมวิวติดอันดัน 1 ใน 3 สถานที่ที่ดีที่สุดของญี่ปุ่น ร่วมกับภูเขาอินาซะ (Mount Inasa) ที่นางาซากิ (Nagasaki) และภูเขารอคโค (Mount Rokko) ที่โกเบ (Kobe) บนยอดเขามีจุดชมวิวมีร้านกาแฟ ร้านจำหน่ายของที่ระลึก
จากนั้นนำท่านชม การประดับไฟในฮาโกดาเตะ(Hakodate Illumination)ด้วยถนนที่สวยแปลกตาและสว่างไสวไปด้วยดวงไฟประดับกว่า 50,000 ดวง คุณจะได้ดื่มด่ำกับทัศนียภาพยามค่ำคืนที่งดงามราวกับความฝันซึ่งหาไม่ได้ที่ไหนนอกจากฤดูหนาวที่ฮาโกดาเตะ ต้นไม้ที่ปลูกในบนเนินถนน เช่น ฮาจิมังซากะ และนิจุกเค็นซากะ จะถูกประดับด้วยดวงไฟ ซึ่งจะเปล่งประกายระยิบระยับยิ่งกว่า ในวันที่หิมะเพิ่งตกจนกองสูงบนพื้น ไฟที่ประดับตามต้นไม้จะเปิดตั้งแต่เวลา 17.00 น. ไปจนถึง 22.00 น. คุณควรสวมเสื้อผ้าหนาๆ ที่เหมาะสำหรับการเดินเล่นตามท้องถนน เมื่อเดินทางไปชมโบสถ์ประดับไฟ ศาลาประชาคม และบริเวณอ่าว
เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคารของโรงแรม(2)
พักที่ Hakodate Hotelหรือระดับเดียวกัน
วันที่3 ตลาดเช้าฮาโกดาเตะ – ป้อมโกเรียวคาคุ – ย่านเมืองเก่าโมโตมาจิ – โกดังอิฐแดง – ลิงแช่ออนเซ็น – อุโมงค์ไฟโทยะ
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม(3)
นำท่านไปยัง ตลาดเช้าฮาโกดาเตะ (Hakodate Morning Market)มีพื้นที่ประมาณ 4 ช่วงตึก เปิดเปิดเป็นประจำทุกวัน ตั้งแต่ตอนเช้าตีห้าถึงเที่ยงตรง ในตลาดจะจำหน่ายอาหารทะเลสด เช่น ปูอลาสก้า ไข่ปลาแซลม่อน และหอยเม่นทะเล พร้อมทั้งผลไม้ตามฤดูกาล บริเวณใกล้เคียงมีร้านอาหารหลายร้าน เมนูที่นิยมที่สุดคือ Uni-IkuraDomburi(ข้าวเสิร์ฟพร้อมหอยเม่นทะเลและไข่ปลาแซลม่อน)
พาท่านเดินทางสู่ ป้อมโกเรียวคาคุ(ราคาทัวร์ไม่รวมค่าลิฟต์ขึ้นหอคอย)เป็นป้อมปราการแบบตะวันตกที่สร้างเสร็จเมื่อ 150 ปีมาแล้ว วิวมุมกว้างอันงดงามของป้อมปราการรูปดาวและคูป้อมโดยรอบจะปรากฏแก่สายตาของผู้ชมจากลานสังเกตการณ์ของหอคอยโกเรียวคาคุที่มีความสูง 107 เมตร ซึ่งอยู่ติดกับตัวป้อม คูป้อมรายล้อมไปด้วยต้นซากุระกว่า 1,600 ต้น ทำให้หอคอยโกเรียวคาคุกลายเป็นจุดชมซากุระลำดับต้นๆ ของฮอกไกโดในช่วงฤดูใบไม้ผลิในฤดูร้อน คูป้อมจะรายล้อมไปด้วยความเขียวชอุ่ม ซึ่งเปลี่ยนเป็นสีสันเจิดจ้าจากใบไม้สีแดงสดในฤดูใบไม้ร่วง ก่อนจะถูกปกคลุมด้วยหิมะในฤดูหนาว เกิดเป็นทิวทัศน์ที่งดงามเกินบรรยายในทุกๆ ฤดูกาล
แล้วนำท่านเดินชมเมืองที่ ย่านเมืองเก่าโมโตมาจิ(Motomachi District)แต่ก่อนบริเวณท่าเรือเมืองฮาโกดาเตะ เป็นท่าเรือแรกที่เปิดให้มีการค้าระหว่างประเทศในปี 1854 ในช่วงสิ้นสุดยุคญี่ปุ่นแบ่งแยก ดังนั้นทำให้มีผู้ค้าจำนวนมากจากรัสเซีย จีน และชาติตะวันตก ได้ย้ายถิ่นฐานมาอาศัยอยู่ในเมืองฮาโกดาเตะแห่งนี้ ซึ่งปัจจุบันยังคงมีอาคารสไตล์ตะวันตกและสิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียง ได้แก่ห้องโถงอนุสรณ์สไตล์จีน, ศาลาประชาคมฮาโกดาเตะ, โบสถ์รัสเซียออโธด็อกซ์, สถานกงสุลอังกฤษเก่า, บ้านเก่าตระกูลโซมะ, วัดฮิงาชิฮอนงันจิ สาขาเมืองฮาโกดาเตะ, โบสถ์อิปิสโคปัล,โบสถ์โมโตมาจิโรมันคาธอลิค
นำท่านชม โกดังอิฐแดงริมน้ำ (Red Brick Warehouses)ได้ปรับปรุงมาจากคลังสินค้าอิฐสีแดงที่เคยใช้ค้าขายในปลายสมัยเอโดะ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำของอ่าวฮาโกดาเตะ ศูนย์รวมแหล่งช้อปปิ้ง ร้านอาหาร และสถานบันเทิงที่ให้บรรยากาศเก่าๆ นอกจากร้านขายของที่ระลึกที่ทันสมัย เสื้อผ้าแฟชั่น ร้านขายอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน และร้านขนมหวานแล้ว ยังมีร้านอาหาร ลานเบียร์ โบสถ์สำหรับจัดพิธีแต่งงาน และบริการล่องเรือเพื่อชมวิวทิวทัศน์ของอ่าวฮาโกดาเตะอีกด้วย
เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยงแบบ JAPANESE SET(4)
นำท่านชม ลิงแช่บ่อน้ำร้อน ณ สวนพฤกษศาสตร์เขตร้อนฮาโกดาเตะอยู่ในตรอกน้ำพุร้อนยุโนะคาวะซึ่งมีลิงญี่ปุ่นอาศัยอยู่มากมาย ในฤดูหนาว สระจะเต็มไปด้วยน้ำพุร้อน ท่านจะได้เห็นลิงน้อยใหญ่แช่น้ำร้อนอย่างมีความสุข มันช่างเป็นภาพที่ช่างน่าเอ็นดู โดยเฉพาะในวันที่มีหิมะตก
หลังจากนั้นเดินทางไปยังทะเลสาบโทยะ (Lake Toya)ในช่วงฤดูหนาวนั้นเมืองโทยะ (Toya) นั้นก็มีการประดับประดาด้วยหลอดไฟจำนวนกว่า 12,000 ดวงตามถนนจากเมืองอนเซ็นไปยังริมฝั่งทะเลสาบโทยะ (Lake Toya) เรียกว่า ถนนประดับไฟ (Illumination Street)อยู่ตลอดทั้งปี นอกจากนี้ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไปที่ลานนิงิวะอิฮิโรบะ(NigiwaiHiroba) ใจกลางเมืองออนเซ็นก็จะได้เห็น อุโมงค์ประดับไฟ (Illumination Tunnel)อีกด้วย อุโมงค์ที่สว่างไสวระยิบระยับไปตลอดระยะทางราว 70 เมตรด้วยหลอดไฟ LED จำนวนกว่า 400,000 ดวงนี้
เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคารของโรงแรม(5)
พักที่ TOYA HOTELหรือระดับเดียวกัน
อิสระให้ท่านอาบน้ำแร่รวมแบบญี่ปุ่น (ออนเซน)
วันที่4 ลานสกี Rusutsu Ski Resort – โอตารุ – พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี-โรงเป่าแก้วคิตาอิชิ – โรงงานช็อคโกแลต-DUTY FREE – ซัปโปโร-ชมงาน Sapporo White Illumination
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม(6)
นำท่านเดินทางสู่ Rusutsu Ski Resortเป็นลานสกีเพียงแห่งเดียวของญี่ปุ่นที่มีความยาวถึง 42 กิโลเมตรและใช้กอนโดล่า(กระเช้า)ต่อกันถึง 4 ตัว มีร้านอาหาร บ่อน้ำร้อน สิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจครบครัน แถมภายในรีสอร์ทยังมีความบันเทิงหลากหลายรูปแบบ ให้ท่านอิสระเพลิดเพลินกับกิจกรรมลานสกี
(ค่าทัวร์ไม่รวมค่าเช้าชุดและอุปกรณ์ต่างๆhttp://ski-rusutsu.com/)
หมายเหตุ : กรณีที่ลานสกี RUSUTSU ปิด หรือ มีเหตุขัดข้องทำให้ไม่สามารถเข้าไปเล่นหรือทำกิจกรรมใดๆ ได้ ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนเป็นไปลานสกีใกล้เคียงหรือ ลานสกีที่อยู่ในเส้นทางทัวร์
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองโอตารุเมืองท่าที่เจริญรุ่งเรืองในฐานะที่เป็นเมืองค้าขายในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ถึง 20 และยังเป็นเมืองมีชื่อเสียงเกี่ยวกับการทำเครื่องแก้วที่สวยงาม และมีสไตล์รูปทรงอันเป็นเอกลักษณ์ นำท่านชม คลองโอตารุสัญลักษณ์ของเมืองโอตารุที่ได้รับความนิยมถ่ายภาพ มีฉากหลังเป็นหลังคาอาคารก่ออิฐแดง โดยคลองโอตารุสร้างเสร็จในปี 1923 ถือว่าเป็นคลองที่เกิดจากการถมทะเล ใช้เป็นเส้นทางขนถ่าย สินค้าจากเรือใหญ่ ลงสู่เรือขนถ่าย แล้วนำสินค้ามาเก็บไว้ภายในโกดัง แต่ภายหลังได้เลิกใช้และถมคลองครึ่งหนึ่งทำเป็นถนนหลวงสาย 17 ส่วนที่เหลือไว้ครึ่งหนึ่งก็ได้ทำการปรับปรุงเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทั้งยังปรับปรุงทางเดินเลียบคลองด้วยอิฐสีแดง อิสระให้ท่านรูปเป็นที่ระลึกอิสระให้ท่านรูปเป็นที่ระลึก จากนั้นอิสระให้ท่านเดินเล่นชมเมืองโอตารุตามอัธยาศัย เช่น พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีและเครื่องแก้วที่รวบรวมกล่องดนตรีและเครื่องแก้วอันงดงามและหายากไว้มากมาย ท่านสามารถเลือกซื้อและเลือกชมสินค้าพื้นเมืองงานฝีมือต่าง ๆ อาทิเช่น ตุ๊กตาแก้ว ชาม แก้ว โคมไฟ เพลิดเพลินไปกับร้านขายกล่องดนตรี ซึ่งมีกล่องดนตรีขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ โดยท่านสามารถเลือกเพลงต่างๆ ได้ด้วยตัวของท่านเอง ร้านขายเครื่องแก้ว ที่มีตั้งแต่กระดิ่งแก้วอันจิ๋วไปจนถึงโคมระย้า ร้านขายขนมอบต่างๆที่ท่านสามารถชิมตามใจชอบโดยเฉพาะร้าน KITAKAROซึ่งมีขนมแบบอบจากเตาสดๆ ใหม่ๆ ให้อร่อยจนลืมอ้วนกันเลยทีเดียว และเหมาะที่จะซื้อของฝากเป็นอย่างดี และยังมีอีกหนึ่งร้านที่ท่านต้องมีเวลากับร้านนี้ คือ
ร้าน LeTAOร้านชีสเค้กแสนอร่อย ด้วยบรรยากาศในร้านตกแต่งด้วยไม้ที่แสนอบอุ่น ขับกล่อมด้วยเพลงสากลแบบมิวสิคบ๊อกซ์
เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคาร (7)
นำท่านเดินทางสู่ โรงงานช็อคโกแลต ISHIYAชมขั้นตอนการทำชอคโกแลตที่ขึ้นชื่อของเมืองซัปโปโร โดยเฉพาะ SHIROI KOIBITO ขนมสอดไส้ช็อคโกแลตขาวที่เป็นที่นิยมทั่วทั้งเกาะ ฮอกไกโด (อิสระให้ท่านถ่ายรูปบริเวณด้านนอก ไม่รวมตั๋วค่าเข้าชมภายใน)
นำท่านสู่ JTC DUTY FREEอิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าปลอดภาษี เช่น เสื้อผ้า น้ำหอม ตามอัธยาศัย
จากนั้นนำท่านเที่ยวชม เทศกาลประดับไฟฤดูหนาวซัปโปโรไวท์อิลลูมิเนชัน (Sapporo White Illumination) นับเป็นเทศกาลที่สร้างสีสันให้กับฤดูหนาวของซัปโปโร (Sapporo) ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในฮอกไกโด (Hokkaido) และเป็นเทศกาลประดับไฟที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่นในปีค.ศ. 1981 โดยในครั้งแรกนั้นใช้หลอดไฟจำนวนประมาณ 1,000 หลอด และ 37 ปีต่อมาก็เพิ่มจำนวนหลอดไฟมากขึ้นถึงกว่า 780,000 ดวงเลยทีเดียวสถานที่จัดงานอยู่บริเวณสวนสาธารณะโอโดริ (Odori Park) มีการจัดแสดงชิ้นงานมากมายหลากหลายแบบทั้งที่แสดงถึงธรรมชาติอันงดงามของฮอกไกโด
เย็น รับประทานอาหารเย็น ณภัตตาคาร (8)ร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ไลน์อาหารก็มีมากมายหลายชนิดที่มีให้เลือก โดยเฉพาะอาหารทะเลทั้งหลายที่สดมากๆ ตั้งแต่หอยนางรม หอยเชลล์ หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ หอยตลับ กุ้งก้ามกราม กุ้งแม่น้ำ กั้ง ปลาไข่ ปลาแซลมอน และไฮไลท์ที่ชาวไทยรอคอย คือ ปู ฮอกไกโด 3 ชนิดได้แก่ ขาปูยักษ์ ปูหิมะชื่อดัง และปูขนตัวใหญ่ // สำหรับคนรักอาหารโปรตีน จะมีเนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อวัว และเนื้อแกะ ให้บริการ
พักที่ Mystays Sapporo Susukino หรือระดับเดียวกัน
วันที่5 อิสระช้อปปิ้งหรือท่องเที่ยวงาน Sapporo Snow Festival
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม(9)
อิสระให้ท่านท่องเที่ยวในเมืองซัปโปโรตลอดทั้งวัน มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่หลายที่ โดยท่านสามารถใช้บริการขนส่งสาธารณะ หรือ ช้อปปิ้งตามแหล่งต่างๆ
อดีตอาคารที่ว่าการของฮอกไกโด(ตึกอิฐแดง) เป็นตึกสไตล์นีโอบารอค มีลักษณะพิเศษที่มีหลังคายอดแหลมและกรอบหน้าต่างเป็นเอกลักษณ์ เปรียบเสมือนอนุสาวรีย์การบุกเบิกของฮอกไกโด ปัจจุบันได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ
หอนาฬิกาประจำเมือง (CLOCK TOWER)เป็นหอนาฬิกาที่ดำรงอยู่ในฐานะสัญลักษณ์ของซัปโปโร มีหน้าปัดนาฬิกาทั้งสี่ด้านที่ทำจากอเมริกา ปัจจุบันถือเป็นหอนาฬิกาที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น และเป็นสถานที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกรู้จัก และนิยมถ่ายรูปเป็นที่ระลึก
ตลาดปลาโจไก (Sapporo Jogai Market)ประกอบด้วยร้านค้า และร้านอาหารกว่า 80 ร้าน เรียงรายตลอดบล็อกขึ้นไปนอกตลาดขายส่งซัปโปโร เป็นหนึ่งในตลาดที่ใหญ่ที่สุดของเมือง ร้านค้าต่างๆ จำหน่ายอาหารทะเล เช่น ปู หอยเม่นทะเล ไข่ปลาแซลมอน ปลาหมึก และหอยเชลล์ ผลผลิตอื่น ๆ ในท้องถิ่น เช่น ข้าวโพด แตงโม และมันฝรั่งตามฤดูกาล ราคาก็เหมาะสม อาหารท้องถิ่นที่ขึ้นชื่อคือ Donburi
สวนสาธารณะโอโดริ(Odori Promenade) ซึ่งเป็นสวนหย่อมขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองซัปโปโร มีความยามถึง 1.5 กิโลเมตร บริเวณเกาะกลางมีสวนหย่อมขนาดใหญ่ และยังเป็นที่ตั้งของหอคอยส่งสัญญาณซัปโปโร
ย่านซูซูกิโนะ(Susukino) ที่ย่านกินดื่มที่ใหญ่ที่สุดของเมืองซัปโปโร มั่งคั่งด้วยร้านค้าและแวดล้อมไปด้วยร้านอาหารแยะเต็มไปหมด แต่สำหรับราเมน แนะนำต้องไปที่ซอยนี้คือ “Ramen Yokocho” เป็นซอยราเมน สามารถเลือกร้านตามความชอบ ทั้งชนิดเส้นราเมนน้ำซุปรสชาติและเครื่องเคราต่าง ๆ
หรือ อิสระเที่ยวชมงานSAPPORO SNOW FESTIVAL (เทศกาลหิมะซัปโปโร) คือ งานเทศกาลหิมะและน้ำแข็ง ที่จัดขึ้นในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปีใน เมืองซัปโปโรของฮอกไกโด งานเทศกาลนี้มีอายุกว่า 70 ปีแล้ว ภายในงานมีไฮไลท์อยู่ที่การจัดแสดงประติมากรรมหิมะเล็กใหญ่มากมายกลางเมือง ซึ่งนับเป็นงานอีเว้นท์ประจำฤดูหนาวที่ใหญ่ที่สุดที่มีผู้คนจากทั่วโลกเดินทางมาเข้าร่วมงานกว่า 2,600,000 คนเลยทีเดียว และที่เป็นข่าวใหญ่ทุกปีคือกลุ่มคนไทยที่ชนะการแข่งขันประกวดประติมากรรมหิมะภายในงานมาอย่างต่อเนื่อง
ธีมของประติมากรรมหิมะจะแตกต่างกันไปในแต่ละปี โดยมีขอบเขตกว้างมากตั้งแต่สถาปัตยกรรมทางประวัติศาสตร์ อย่างสถาปัตยกรรมชื่อดังระดับโลกและปราสาทญี่ปุ่นไปจนถึงตัวการ์ตูนจากอนิเมะ ประติมากรรมหิมะบางชิ้นมีความสูง 15 เมตร กว้าง 25 เมตรเลยทีเดียว ลานจัดงาน Odori (โอโดริ) คือ ลานจัดงานภายในสวนโอโดริ ตั้งอยู่กลางเมืองซัปโปโรทอดยาวจากฝั่งตะวันออกไปตะวันตก จัดแสดงประติมากรรมหิมะขนาดยักษ์ตลอดเส้นทางยาวกว่า 1.5 กิโลเมตร แถมยังมีไลท์อัพประดับไฟตอนกลางคืนด้วย เราจึงสามารถเดินชมได้ตลอดทั้งวันไม่มีเบื่อ
เย็น อิสระรับประทานอาหารเย็นตามอัธยาศัย เพื่อให้ท่านใช้เวลาอย่างคุ้มค่า
พักที่ Mystays Sapporo Susukino หรือระดับเดียวกัน
วันที่6 สนามบินชิโตเสะ - สนามบินสุวรรณภูมิ
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (10)
นำทานเดินทางสู่สนามบินชิโทเซ่ เพื่อเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ ตรวจเช็คเอกสารและสัมภาระ
10.00 น. ออกเดินทางจากเมืองซัปโปโรกลับกรุงเทพฯ โดยสายบินไทย เที่ยวบินที่ TG671
(ใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 8.30 ชั่วโมง)*บริการอาหารร้อน และเครื่องดื่มบนเครื่อง
15.50 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ
--------------------------------------------------
โปรแกรมอาจจะมีการปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม
ของสภาพอากาศและฤดูกาล
อัตราค่าบริการทัวร์
วันเดินทาง
|
ผู้ใหญ่พักห้องละ
2-3 ท่านท่านละ
|
ราคาไม่รวมตั๋วท่านละ
|
พักเดี่ยว
เพิ่มท่านละ
|
30 ม.ค. – 4 ก.พ. 2563
|
49,999.-
|
39,999.-
|
15,900.-
|
5 - 10 ก.พ. 2563
|
53,999.-
|
43,999.-
|
15,900.-
|
** ปล. ไม่มีราคาเด็ก เนื่องจากเป็นราคาพิเศษ**
ราคา INFANT ท่านละ 12,900 บาท
ราคาทัวร์ข้างต้นยังไม่รวมค่าทิปคนขับรถ และไกด์ท้องถิ่น (ถ้ามี)
ท่านละ 2,000 บาท/ทริป(ชำระที่สนามบินสุวรรณภูมิในวันเช็คอิน)
(ค่าทิปหัวหน้าทัวร์แล้วแต่ความพึงพอใจของท่าน)
อัตราค่าบริการรวม
- ค่าตั๋วเครื่องบินโดยสารชั้นประหยัด รวมภาษีสนามบินและธรรมเนียมเชื้อเพลิง
- ค่าที่พักห้องคู่ (2-3 ท่าน) ดังที่ระบุในรายการหรือระดับเดียวกัน
- โรงแรมที่พักตามที่ระบุ หรือเทียบเท่า (พัก 2-3 ท่าน/ห้อง)
- ค่าอาหาร ดังที่ระบุในรายการ
- ค่าเข้าชม ดังที่ระบุในรายการ
- ค่ารถนำเที่ยว ดังที่ระบุในรายการ
- ค่าประกันอุบัติเหตุในระหว่างการเดินทาง วงประกันท่านละ 1,000,000 บาท (เงื่อนไขตามกรรมธรรม์)
อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม
r ค่าใช้จ่ายส่วนตัวของผู้เดินทาง อาทิ ค่าทำหนังสือเดินทาง ค่าโทรศัพท์ ค่าอาหาร เครื่องดื่ม ค่าซักรีด ค่ามินิบาร์ในห้องและค่าพาหนะต่างๆ ที่มิได้ระบุในรายการ
r ค่าธรรมเนียมวีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่น กรณีประกาศให้กลับมายื่นร้องขอวีซ่าอีกครั้ง (เนื่องจากทางญี่ปุ่นได้ประกาศยกเว้นการยื่นวีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่นให้กับคนไทยสำหรับผู้ที่ประสงค์พำนักระยะสั้นในประเทศญี่ปุ่นไม่เกิน 15 วัน)
r หากในภายหลังทางรัฐบาลญี่ปุ่นประกาศให้ยื่นวีซ่าตามเดิม ผู้เดินทางจะต้องจ่ายเพิ่ม 2,000 บาท สำหรับการยื่นร้องขอวีซ่า
r ค่าธรรมเนียมในกรณีที่กระเป๋าสัมภาระที่มีน้ำหนักเกินกว่าที่สายการบินนั้นๆกำหนดหรือสัมภาระใหญ่เกินขนาดมาตรฐาน
r ค่าภาษีน้ำมัน ที่สายการบินเรียกเก็บเพิ่ม ภายหลังจากทางบริษัทฯได้ออกตั๋วเครื่องบินไปแล้ว
r ค่าน้ำหนักกระเป๋าสัมภาระ ที่หนักเกินสายการบินกำหนด (ปกติ ขาไป 30 กก. // ขากลับ 30 กก.)
r ค่าทิปคนขับรถ และไกด์ท้องถิ่น(ถ้ามี) ท่านละ2,000 บาท/ทริป ชำระที่สนามบินในวันเช็คอิน (ค่าทิปหัวหน้าทัวร์แล้วแต่ความพึงพอใจของท่าน)
r ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 % และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3 %(กรณีต้องการใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษี)
เงื่อนไขการสำรองที่นั่ง
- กรุณาจองล่วงหน้าอย่างน้อย 30 วันก่อนการเดินทาง และกรุณาเตรียมเงินมัดจำ 20,000 บาทพร้อมกับเตรียมเอกสารส่งให้เรียบร้อย ภายใน 2-3 วัน หลังจากทำการจองแล้ว
- การชำระค่าทัวร์ส่วนที่เหลือทางบริษัทฯ จะเรียกเก็บก่อนเดินทางไม่น้อยกว่า 30 วัน ท่านควรจัดเตรียมค่าทัวร์ให้เรียบร้อยก่อนกำหนด เนื่องจากทางบริษัทต้องสำรองค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าที่พักและตั๋วเครื่องบินมิฉะนั้นจะถือว่าท่านยกเลิกการเดินทางโดยอัตโนมัติ
- หากท่านที่ต้องการออกตั๋วโดยสารภายในประเทศ (กรณีลูกค้าอยู่ต่างจังหวัด) ให้ท่านติดต่อเจ้าหน้าที่ ก่อนออกบัตรโดยสารทุกครั้ง หากออกบัตรโดยสารโดยมิแจ้งเจ้าหน้าที่ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น รวมถึงการล่าช้าของสายการบินระหว่างประเทศ
- หากในคณะของท่านมีผู้ต้องการดูแลพิเศษ นั่งรถเข็น (Wheelchair), เด็ก, ผู้สูงอายุ, มีโรคประจำตัว หรือไม่สะดวกในการเดินทางท่องเที่ยวในระยะเวลาเกินกว่า 4 - 5 ชั่วโมงติดต่อกัน ท่านและครอบครัวต้องให้การดูแลสมาชิกภายในครอบครัวของท่านเอง เนื่องจากการเดินทางเป็นหมู่คณะ หัวหน้าทัวร์มีความจำเป็นต้องดูแลคณะทัวร์ทั้งหมด