วันแรกของการเดินทาง สนามบินสุวรรณภูมิ
|
08.00 น. พบกันที่ เคาน์เตอร์เช็คอิน S ประตู 9 สายการบิน เตอร์กิช แอร์ไลน์TK เจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกทางด้านสัมภาระและเอกสารการเดินทางก่อนขึ้นเครื่อง
10.55 น. ออกเดินทางสู่ กรุงอิสตันบูล โดยสายการบิน เตอร์กิช แอร์ไลน์เที่ยวบินที่ TK65 (บินตรง)
17.05 น. เดินทางถึงสนามบิน กรุงอิสตันบูลIstanbul หลังจากผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองแล้ว
พักค้างคืน ที่ Golden Way Hotel 4*หรือเทียบเท่า www.goldenway.com.tr
วันที่สองของการเดินทาง ฮิปโปโดม-สุเหร่าสีน้ำเงิน-โบสถ์เซนต์โซเฟีย-พระราชวัง
ทอปกาปิ-เมืองชานัคคาเล่
|
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ชมสนามแข่งม้าของชาวโรมัน หรือ “ฮิปโปโดรม”Hippodromeหรือจัตุรัสสุลต่านอาห์เมต สร้างขึ้นในสมัยจักรพรรดิ เซปติมิอุส เซเวรุส เพื่อใช้เป็นที่แสดงกิจกรรมต่าง ๆ ของชาวเมือง ต่อมาในสมัยของจักรพรรดิ เซปติมิอุส เซเวรุส เพื่อใช้เป็นที่จัดแสดงกิจกรรมต่าง ๆ ของชาวเมือง ต่อมาในสมัยของจักรพรรดิคอนสแตนติน ฮิปโปโดรมได้รับการขยายให้กว้างขึ้น ตรงกลางเป็นที่ตั้งแสดงประติมากรรมต่าง ๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นศิลปะในยุคกรีกโบราณในสมัยออตโตมันสถานที่แห่งนี้ใช้เป็นที่จัดงานพิธี แต่ในปัจจุบันเหลือเพียงพื้นที่ลานด้านหน้ามัสยิดสุลต่านอะห์เมต ซึ่งเป็นที่ตั้งของเสาโอเบลิกส์ 3 ต้น คือ เสาที่สร้างในอียิปต์ เพื่อถวายแก่ฟาโรห์ตุตโมซิสที่ 3 ถูกนำกลับมาไว้ที่อิสตันบูล เสาต้นที่สอง คือ เสางู และเสาต้นที่สาม คือ เสาคอนสแตนตินที่ 7 จากนั้นนำท่านชม สุเหร่าสีน้ำเงินBlue Mosqueที่มาของชื่อสุเหร่าสีน้ำเงินเป็นเพราะเขาใช้กระเบื้องสีน้ำเงินในการตกแต่งภายใน ซึ่งทำเป็นลายดอกไม้ต่าง ๆ เช่น ดอกกุหลาบ คาร์เนชั่น ทิวลิป เอกลักษณ์เด่นอีกอย่างแต่อยู่ภายนอกคือ หอประกาศเชิญชวนเมื่อถึงเวลาที่จะต้องทำพิธีละหมาด Minaret6 หอ เท่ากับสุเหร่าที่นครเมกกะ
จากนั้นท่านเข้าชม โบสถ์เซนต์โซเฟียSt. Sophiaซึ่งเป็นศิลปะแบบไบแซนไทม์ ได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ สร้างขึ้นสมัยจักรพรรดิคอนสแตนติน ของจักรวรรดิไบแซนไทม์ เดิมใช้เป็นโบสถ์คริสต์แต่หลังจากจักรวรรดิออตโตมันเข้ามาปกครองจึงได้
เปลี่ยนโบสถ์ดังกล่าวมาเป็นมัสยิด แต่ได้เปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติในสมัย เคมาล อะตาเติร์ก หลังจากที่เป็นโบสถ์ในศาสนาคริสต์เป็นเวลากว่า 916 ปี และเป็นมัสยิดของศาสนาอิสลามอีกกว่า 447 ปี ปัจจุบันเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมความงามและความยิ่งใหญ่ ภายในมีภาพประดับโมเสกทองที่สมบูรณ์บ่งบอกถึงความศรัทธาอันแรงกล้าของจักรพรรดิคอนสแตนตินที่มีต่อคริสต์ศาสนาจากนั้นนำท่านชมความยิ่งใหญ่ของสิ่งก่อสร้างของชาวโรมันในอดีตอุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตันYerebatan Sarniciซึ่งเป็นอุโมงค์เก็บน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในอิสตันบูล สามารถเก็บน้ำได้มากถึง 88,000 ลูกบาศก์เมตร สร้างขึ้นตั้งแต่คริสต์ศวรรษที่ 6 ภายในอุโมงค์ มีเสากรีกต้นสูงใหญ่ค้ำเรียงรายเป็นแถวถึง 336 ต้น และมีเสาต้นที่เด่นมากคือ เสาเมดูซ่า อิสระให้ท่านถ่ายรูป และชมความงามใต้ดินของอุโมงค์เก็บน้ำขนาดใหญ่
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีนChang Cheng Restaurant
ท่านเดินทางเข้าสู่ย่านตัวเมืองเก่า นำท่านเข้าชม พระราชวังทอปกาปึTopkapi Palaceซึ่งสร้างในสมัยสุลต่านเมห์เมตที่ 2 หรือ เมห์เมตผู้พิชิต ภายหลังที่ทรงตีกรุงคอนสแตนติโนเปิล หรือ อิสตันบูลในปัจจุบันได้แล้ว ทรงมีพระราชประสงค์ที่จะให้เมืองนี้เป็นศูนย์กลางของอาณาจักรออตโตมัน จึงโปรดให้มีการสร้างพระราชวังนี้ขึ้นเป็นที่ประทับอย่างถาวร พระราชวังทอปกาปึนี้มีอาณาบริเวณกว้างใหญ่กินเนื้อที่เกือบ 700,000 ตารางเมตร ล้อมรอบด้วยกำแพงสูงตามแนวฝั่งทะเลมาร์มาร่า ซึ่งภายในพระราชวังทอปกาปึกลายเป็นพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติที่ใช้เก็บมหาสมบัติอันล้ำค่า อาทิเช่น เพชร 96 กะรัต กริชทองประดับมรกต เครื่องลายครามจากจีน หยก มรกต ทับทิม และเครื่องทรงของสุลต่านในแต่ละยุคสมัย จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่ เมืองอีเซียบัทEceabat(ระยะทาง 340 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง) จากนั้นนำท่านข้ามช่องแคบดาดาแนลโดยเรือเฟอร์รี่ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ขึ้นฝั่งที่เมืองชานัคคาเล่Chanakkaleซึ่งตั้งอยู่ริมทะเลมาร์มาร่า ตัดกับทะเลอีเจียนซึ่งเป็นที่ตั้งกรุงทรอย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำแบบบุฟเฟต์ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
พักค้างคืน ที่ Iris Hotel 4* หรือเทียบเท่า www.irisotel.com
วันที่สามของการเดินทาง เมืองชานัคคาเล่-ม้าไม้แห่งกรุงทรอย-เมืองเปอร์กามัม
วิหารอะโครโปลิส-โรงละครที่ชันที่สุดในโลก-เมืองคูซาดาซึ
|
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านสู่ กรุงทรอยTroyชม ม้าไม้แห่งกรุงทรอยWooden Horse of Troyสร้างขึ้น เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่หลงใหลในมหากาพย์อีเลียดได้เห็นด้วยตาของตนเองอีกด้วย ได้เวลาพอสมควร นำท่านเดินทางสู่ เมืองเปอร์กามัมPergamum
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
นำท่านชมความสวยงามของ วิหารอะโครโปลิสAcropolisซึ่งถูกกล่าวขวัญว่าเป็นประหนึ่งดินแดนในเทพนิยาย นำท่านนั่งกระเช้าสู่ด้านบนของยอดเขา ซึ่งสิ่งก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียง คือ โรงละครที่ชันที่สุดในโลก ซึ่งจุผู้ชมได้ถึง 10,000 คน จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่ เมืองคูซาดาซึKusadasiที่แปลว่า เกาะนก ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศตุรกีติดกับชายฝั่งทะเลอีเจียนเป็นท่าเรือที่สำคัญ เรื่อที่ล่องทะเลอีเจียนจะจอดเรียงรายกันอยู่ที่เมืองคูซาดาซึ แห่งนี้เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ขึ้นฝั่งไปเที่ยว เมืองเอฟฟิซุสEphesus
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำแบบบุฟเฟต์ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
พักค้างคืน ที่ Tatlises Hotel 4* หรือเทียบเท่า www.tatliseshotel.com
วันที่สี่ของการเดินทาง เมืองคูซาดาซึ-บ้านพระแม่มารี-เมืองโบราณเอฟฟิซุส-เมือง
ปามุคคาเล่-ปราสาทปุยฝ้าย
|
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
เดินทางสู่ บ้านพระแม่มารีThe Virgin Mary’s Houseสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ซึ่งพระแม่มารีเสด็จมากับนักบุญจอห์นใน ค.ศ. 37-48 และสิ้นพระชนม์ลง ณ สถานที่แห่งนี้ นำท่านสู่ เมืองโบราณเอฟฟิซุสCity of Ephesusอดีต เป็นเมืองหลวงแห่งเอเชียของอาณาจักรโรมัน ชม อาคารที่เป็นสัญลักษณ์ของ นครเอฟฟิซุส คือ ห้องสมุดของเซลซุสLibrary of Celsusและอาคารสำคัญอีกแห่งคือ วิหารแห่งจักรพรรดิเฮเดรียนTemple of Hadrianสร้างขึ้นถวายแด่จักรพรรดิเฮ เดรียน ความโดเด่นของวิหารแห่งนี้คืออยู่ในสภาพที่สมบูรณ์มาก จากนั้นปิดท้ายกันที่สิ่งก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในนครเอฟฟิซุส คือ โรงละครGreat Theatreซึ่งสร้างโดยสกัดเข้าไปในไหล่เขาให้เป็นที่นั่ง สามารถจุคนได้ถึง 25,000 คน ซึ่งคิดเป็น 1 ใน 10 ของประชากรในยุคนั้น สร้างสมัยกรีกโบราณ แต่พวกโรมันมาปรับปรุงให้ยิ่งใหญ่มากขึ้น นำท่านช้อปปิ้ง ณ ศูนย์ผลิตเสื้อหนังคุณภาพสูงซึ่งตุรกีเป็นประเทศที่ผลิตหนังที่มีคุณภาพที่สุด อีกทั้งยังผลิตเสื้อหนังส่งให้กับแบรนด์ดังในอิตาลี เช่น Versace , Prada , Michael Kors อิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าได้ตามอัธยาศัย
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
นำท่านเดินทางสู่ เมืองปามุคคาเล่Pamukkale(ระยะทางประมาณ 185 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 2.45 ชั่วโมง) ตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศตุรกี นำท่านชม ปราสาทปุยฝ้ายCotton Castleโดยลักษณะที่โดดเด่นของ ปามุคคาเล่Pamukkaleเป็นเนินเขาสีขาวโพลน
เนื่องจากที่ส่วนใหญ่เต็มไปด้วยส่วนประกอบของแคลเซี่ยม มีความยาวประมาณ 2.7 กิโลเมตร สูง 160เมตร เกิดจากน้ำพุร้อนที่นำแคลเซี่ยมคาร์บอเนตมาตกตะกอน โดยบ่อน้ำพุเกลือแร่ร้อนนี้นี่เองที่ได้ก่อให้เกิดทัศนียภาพของน้ำตกสีขาวเป็นชั้น ๆ หลายชั้น และผลจากการแข็งตัวของแคลเซี่ยมทำให้เกิดเป็นแห่งหินสีขาวราวกับหิมะไหลหลั่นเป็นทางน้ำยาว ที่มีความสวยงามมาก ๆ ปัจจุบันนี้ ปามุคคาเล่ซึ่งเป็นเมืองโบราณที่ตั้งอยู่บนปามุคคาเล่ ในปี พ.ศ. 2531 จากนั้นนำท่านชม นครโบราณเฮียราโปลิสHierapolisในอดีตเป็นสถานที่บำบัดโรค ก่อตั้งโดยกษัตริย์ยูเมเนส ที่ 1 แห่งแพร์กามุม ในปี 190ก่อนคริสตกาล สถานที่แห่งนี้มีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นหลายครั้งหลังปี ค.ศ. 1334 จึงได้มีคนอาศัยอยู่อีก ศูนย์กลางนครเฮียราโปลิส เป็นบ่อน้ำที่ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งปัจจุบันตั้งอยู่ในโรงแรมเมืองปามุคคาเล่
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำแบบบุฟเฟต์ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
พักค้างคืน ที่ Richmond Hotel 4* หรือเทียบเท่า www.richmondinter.com.tr
วันที่ห้าของการเดินทาง เมืองปามัคคาเล่-เมืองคอนย่า-พิพิธภัณฑ์เมฟลาน่า-เมือง
คัปปาโดเกีย-ระบำหน้าท้อง
|
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองคอนย่าKonya(ระยะทางประมาณ 387 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 4 ชั่วโมง) เป็นเมืองที่ นิยมใช้เป็นจุดพักของการเดินทางในอดีตเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรเซลจุกเติร์ก ซึ่งเป็นอาณาจักรแห่งแรกของชาวเติร์กในตุรกี หรือที่ยุคนั้นเรียก อนาโตเลีย เป็นอู่ข้าวอู่น้ำของประเทศ
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
นำท่านเข้าชม พิพิธภัณฑ์เมฟลานาMevlana Museumเดิมเป็นสถานที่นักบวชในศาสนาอิสลามใช้สำหรับทำสมาธิ Whirling Dervishesโดยการเดินหมุนเป็นวงกลมขณะฟังเสียงขลุ่ย ก่อนไปทำการหมุนต้องอดอาหาร มีการเข้าห้องฝึกทรมานร่างกายก่อนที่จะไปหมุนได้ ผู้ที่มีสมาธิมากตัวจะลอยขึ้นเมื่อหมุนไปช่วงเวลาหนึ่ง ก่อตั้งโดยเมฟลาน่า เจลาเลดดิน รูมี่ ผู้วิเศษในศาสนาอิสลามส่วนหนึ่งของ พิพิธภัณฑ์เมฟลาเป็นสุสานของ เมฟลานา เจลาเลดดิน รูมีMevlana Celaleddin Rumiภายนอกเป็นหอทรงกระบอกปลายแหลมสีเขียวสดใน ภายในประดับประดาฝาผนังแบบมุสลิม โดยใช้สีมากมายตระการตาซึ่งหาชมได้ยาก และยังเป็นสุสานสำหรับผู้ติดตาม สานุศิษย์ บิดา และบุตรของเมฟลาด้วย นำท่านเดินทางสู่ เมืองคัปปาโดเกียCappadociaซึ่งองค์การยูเนสโก้ได้ประกาศให้เป็นเมืองมรดกโลก เมืองที่มีลักษณะภูมิประเทศสวยงามมากระหว่างทางแวะชม คาราวานสไลน์Caravanseraiที่พักแรมระหว่างทางของชาวเติร์กในสมัยออตโตมัน
นำท่านออกเดินทางสู่ เมืองคัปปาโดเกีย (ระยะทางประมาณ 180 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 2.30 ชั่วโมง)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารในโรงแรมแบบบุฟเฟต์
จากนั้นนำท่านชม “ระบำหน้าท้อง” ประกอบดนตรีของสาวน้อยชาวตุรกี
พักค้างคืน ที่ Yiltok Hotel 4* หรือเทียบเท่า www.yiltok.net
วันที่หกของการเดินทาง เมืองคัปปาโดเกีย-พิพิธภัณฑ์เกอเรเม่-เมืองใต้ดินไคมัคลี่
เยี่ยมชมบ้านของมนุษย์ถ้ำ-เมืองไคเซอร์รี่-กรุงอิสตันบูล
|
05.00 น. ท่านที่สนใจนั่งบอลลูน พร้อมกัน ณ บริเวณล๊อบบี้ (ทัวร์นั่งบอลลูนนี้ไม่ได้รวมอยู่ในค่าทัวร์ ค่าขึ้นบอลลูนประมาณท่านละ 200 ดอลล่าสหรัฐในกรณีที่ชำระด้วยเงินสด และราคา 210 ดอลล่าสหรัฐ ในกรณีที่ชำระด้วยบัตรเครดิต บริษัทตัวแทนผู้ให้บริการทัวร์บอลลูนในตุรกี มีประกันภัยให้กับทุกท่าน แต่สำหรับประกันภัยที่ทำจากเมืองไทย ไม่ครอบคลุมการขึ้นบอลลูน และเครื่องร่อนทุกประเภท ดังนั้นการเลือกซื้อ Optional Tour ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของท่าน)เจ้าหน้าที่บริษัทบอลลูน รอรับท่าน เพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ที่ไม่ควรพลาด พร้อมกับประกาศนียบัตรที่รอมอบให้กับทุกท่าน
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านชม นครใต้ดินไคมัคลีUnderground City of Derinkuyu or Kaymakli เกิดจากการขุดเจาะพื้นดินลึกลงไป 10 กว่าชั้น เพื่อใช้เป็นที่หลบภัยจากข้าศึกศัตรูนครใต้ดินไคมัคลีมีชั้นล่างที่ลึกที่สุดลึกถึง 85 เมตร เมืองใต้ดินแห่งนี้มีครบเครื่องทุกอย่างทั้งห้องโถง ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องถนอมอาหาร ห้องครัว ห้องอาหาร โบสถ์ ทางหนีฉุกเฉิน ฯลฯ จากนั้นให้ท่านได้แวะชม โรงงานทอพรม และ โรงงานเซรามิค อิสระกับการเลือกซื้อสินค้าและของที่ระลึกได้ตามอัธยาศัย
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
ท่านชม พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม่Goreme Open Air Museumซึ่งเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์ในช่วง ค.ศ. 9 ซึ่งเป็นความคิดของชาวคริสต์ที่ต้องการเผยแพร่ศาสนาโดยการขุดถ้ำเป็นจำนวนมากเพื่อสร้างโบสถ์ และยังเป็นการป้องกันการรุกรานของชนเผ่าลัทธิอื่นที่ไม่เห็นด้วยกับศาสนาคริสต์ ก่อนที่ศาสนาคริสต์จะเผยแพร่ในคัปปาโดเกีย ผู้คนแถบนี้นับถือเทพเจ้ากรีก-โรมัน จนเมื่อประมาณกลางคริสต์สตวรรษที่ 1 เซนต์ปอล เดินทางมาเผยแผ่ศาสนาคริสต์ในคัปปาโดเกีย แต่ดูเหมือนวาชาวโรมันผู้ปครองในยุคนั้นจะไม่ให้การยอมรับ ทำให้ผู้นับถือศาสนาคริสต์ในคัปปาโดเกียต้องหลบซ่อนการรังควานของโรมัน ด้วยการเจาะถ้ำขุดพื้นลงไปเป็นอุโมงค์ เกิดเป็นเมืองใต้ดินขึ้นมา และได้ขุดเจาะบริเวณเกอเรเม่ ทำให้เป็นโบสถ์ถ้ำจำนวนมาก กระทั่งในคริสต์ศตวรรษที่ 5-6 ชาวโรมันให้การยอมรับศาสนาคริสต์ สำหรับโบสถ์ถ้ำในเกอเรเม่ ว่ากันว่ามีมากถึง 365 หลังด้วยกัน (สร้างตามตามจำนวนวันใน 1 ปี) แต่ปัจจุบันเปิดให้ชมเพียงบางส่วนเท่านั้น เข้าชม โบสถ์เซนต์บาร์บารา St. Barbar Churchโบสถ์มังกรSnake Churchและ โบสถ์แอปเปิ้ลApple Churchอิสระให้ท่านได้ถ่ายรูปกับภูเขารูปทรงต่าง ๆ ได้ตามอัธยาศัย พิเศษ!!เข้าชมบ้านพักของมนุษย์ถ้ำพื้นเมืองLocal Cave Houseของชาวพื้นเมือง Cappadociaพร้อมดื่มชา กาแฟ เนื่องจากธรรมเนียมของชาวเมืองตุรกี เมื่อมีผู้มาเยี่ยมเยียนก็จะมอบชา กาแฟ เป็น Welcome Drink
เพื่อแสดงถึงน้ำใจและมิตรภาพระหว่างเพื่อนใหม่ จากนั้นอิสระให้ท่านได้ถ่ายภาพบ้านพื้นเมืองที่มีผู้คนอาศัยอยู่จริงๆ
เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคารพื้นเมืองจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สนามบินไคเซอร์รี่ร์
23.00 น. ออกเดินทางสู่ กรุงอิสตันบูล โดยสายการบิน เตอร์กิช แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK2019
00.30 น. เดินทางถึงสนามบิน กรุงอิสตันบูล จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่โรงแรมที่พัก
พักค้างคืน ที่ Golden Way Hotel 4* หรือเทียบเท่า www.goldenway.com.tr
วันที่เจ็ดของการเดินทาง กรุงอิสตันบูล-ล่องเรือบอสฟอรัส-พระราชวังโดลมาบาชเช่
ช้อปปิ้งตลาดสไปซ์-กรุงเทพมหานคร
|
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่าน ล่องเรือช่องแคบบอสฟอรัสCruise Along the Bosphorusซึ่งเป็นช่องแคบขนาดใหญ่และสองฝั่งมีความสวยงามมาก ช่องแคบนี้ทำหน้าที่เป็นเส้นแบ่งระหว่างยุโรป และเอเชีย เชื่อมระหว่าง ทะเลดำThe Black Seaเข้ากับ ทะเลมาร์มาร่าSea of Marmaraมีความยาว 32 กิโลเมตร ให้ท่านได้ชมทิวทัศน์ทั้งสองข้างที่สวยงามตระการตาของ ช่องแคบบอสฟอรัสที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญยิ่งในการป้องกันประเทศตุรกีอีกด้วย เพราะมีป้อมปืนตั้งเรียงรายอยู่ตามช่องแคบเหล่านี้ นำท่านเข้าชม พระราชวังโดลมาบาชเช่Dolmabahce Palace พระราชวังที่สะท้อนให้เห็นถึงความเจริญอย่างสูงสุดทั้งทางวัฒนธรรมและทางวัตถุของจักรวรรดิออตโตมัน ซึ่งได้แผ่ขยายอำนาจออกไปอย่างกว้างขวาง พระราชวังแห่งนี้สร้างโดย สุลต่าน อับดุล เมอซิท ในปี ค.ศ. 1843 ใช้เวลาก่อสร้างทั้งสิ้น 12 ปี เพราะความที่สุลต่านทรงเป็นผู้คลั่งไคล้ยุโรปอย่างสุดขอบ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นศิลปะ วัฒนธรรม การดำรงชีวิต ตลอดจนการทหาร ล้วนคัดลอกมาจากตะวันตกทั้งสิ้น พระราชวังแห่งนี้ออกแบบโดยสถาปนิกคู่ใจชาวอาเมเนี่ยน ชื่อ บัลยัน เป็นศิลปะผสมผสานของยุโรปและตะวันออกที่ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม ภายนอกพระราชวังประดับตกแต่งด้วยสวนไม้ดอก รายล้อมพระราชวังซึ่งอยู่เหนืออ่าวเล็ก ๆ ของช่องแคบบอสฟอรัส ภายในประกอบด้วยห้องต่าง ๆ ตกแต่งด้วยโคมระย้า บันไดลูกกรง แก้วเจียระไน และ โคมไฟมหึมาหนัก 4.5 ตัน ซึ่งแขวนไว้อย่างโดดเด่นในห้องท้องพระโรงใหญ่ ส่งท้ายครึ่งวันช่วงเช้าด้วยการนำท่านสู่ ย่านช้อปปิ้ง ตลาดสไปซ์ Spice Marketหรือตลาดเครื่องเทศ ท่านสามารถเลือกซื้อของฝากได้ในราคาย่อมเยา ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับ ชาหรือกาแฟ รวมถึงผลไม้อบแห้งอันเลื่องชื่อของตุรกี อย่าง แอปปลิคอท หรือจะเป็นถั่วพิทาชิโอ ซึ่งมีให้เลือกซื้อมากมายแนะนำว่าของที่ตลาดสไปซ์แห่งนี้ราคาไม่แพงเหมือนกับตลาดแกรนด์ บาร์ซาร์ ท่านสามารถเลือกซื้อได้โดยอาจจะมีต่อรองราคาเล็กน้อย
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น
ส่งท้ายครึ่งวันช่วงเช้าด้วยการนำท่านสู่ ย่านช้อปปิ้ง ตลาดสไปซ์ Spice Marketหรือตลาดเครื่องเทศ ท่านสามารถเลือกซื้อของฝากได้ในราคาย่อมเยา ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับ ชาหรือกาแฟ รวมถึงผลไม้อบแห้งอันเลื่องชื่อของตุรกี อย่าง แอปปลิคอท หรือจะเป็นถั่วพิทาชิโอ ซึ่งมีให้เลือกซื้อมากมายแนะนำว่าของที่ตลาดสไปซ์แห่งนี้ราคาไม่แพงเหมือนกับตลาดแกรนด์ บาร์ซาร์ ท่านสามารถเลือกซื้อได้โดยอาจจะมีต่อรองราคาเล็กน้อย จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่สนามบิน
20.05 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพมหานครโดย เตอร์กิช แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK 64
สำหรับคณะที่เดินทางวันที่ 25 ก.ค.-01 ส.ค. / 04-11 ต.ค. / 18-25 ต.ค.
หลังจากช้อปปิ้งตลาดสไปซ์ Spice Market แล้ว นำท่านเดินทางสู่ภัตตาคาร
เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่สนามบิน เพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับสู่ กรุงเทพมหานคร
00.40 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพมหานครโดย เตอร์กิช แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK 68
วันที่แปดของการเดินทาง กรุงเทพมหานคร
|
09.25 น. เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ
คณะที่เดินทางขากลับ อิสตันบูล-กรุงเทพฯ เดินทางด้วยTK64 20:05-09:25
เฉพาะวันที่ 08-15 ส.ค. / 09-16 ส.ค. / 03-10 ต.ค. / 10-17 ต.ค. / 11-18 ต.ค. / 31 ต.ค.-07 พ.ย.
14.15 น. เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ
คณะที่เดินทางขากลับ อิสตันบูล-กรุงเทพฯ เดินทางด้วยTK68 00:40-14:15
เฉพาะวันที่ 25 ก.ค.-01 ส.ค. / 04-10 ต.ค. / 18-25 ต.ค.
***End of Service***
กำหนดเดินทาง Promotion Highlight Turkey 8 Days
กำหนดการเดินทาง 25 ก.ค.-01 ส.ค. / 08-15 ส.ค. / 09-16 ส.ค. / 03-10 ต.ค. / 04-11 ต.ค.
10-17 ต.ค. / 11-18 ต.ค. / 18-25 ต.ค. / 31 ต.ค.-07 พ.ย.
ราคาทัวร์โปรโมชั่น ไฮไลท์ 8 วัน ราคาท่านละ 49,900.- บาท
เฉพาะคณะวันที่ 18-28 ต.ค. 2558 ราคาท่านละ51,900.- บาท
หมายเหตุ ราคาทัวร์นี้เป็นราคาโปรโมชั่น จะไม่มีราคาเด็ก
ในกรณีที่ต้องการพักห้องเดี่ยวจะต้อง ชำระค่าห้องเดี่ยวเพิ่มจากราคาทัวร์อีก6,000.-บาท
ในกรณีที่ต้องการเดินทางด้วยตั๋วเครื่องบินชั้นธุรกิจ Business Class จะต้องเพิ่มเงินจากราคารอีก 78,000.-บาท
(ราคาตั๋วชั้นธุรกิจนี้ เป็นราคาเริ่มต้นต่ำสุด และราคา สามารถยืนยันได้ก็ต่อเมื่อได้ที่นั่งConfirmเท่านั้น)
**ราคาอาจมีการปรับขึ้น – ลง ตามราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นลง แต่จะปรับตามความเป็นจริงที่
สายการบินประกาศปรับ และที่มีเอกสารยืนยันเท่านั้น (คิด ณ วันที่ 7 มกราคม 2557) **
ข้อแนะนำบางประการและต้องแจ้งให้นักท่องเที่ยวทราบก่อนการเดินทาง
สำหรับห้องพักแบบ 3 เตียง มีบริการเฉพาะบางโรงแรมเท่านั้น กรณีเดินทางเป็นผู้ใหญ่ 3 ท่าน บริษัทฯ ขอแนะนำให้นักท่องเที่ยวเปิดห้องพัก เป็น 2 ห้อง จะสะดวกกับนักท่องเที่ยวมากกว่า
กรณีเดินทางเป็นตั๋วกรุ๊ป หากออกตั๋วแล้ว นักท่องเที่ยวไม่สามารถขอคืนเงินได้ และไม่สามารถเปลี่ยนวันเดินทางได้
กระเป๋าเดินทางเพื่อโหลด สำหรับชั้นท่องเที่ยว ท่านละ 1 ใบ (น้ำหนักไม่เกิน 20 กิโลกรัม)
กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง Hand Carry(น้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม)
อัตราค่าบริการนี้รวมถึง
ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ชั้นนักท่องเที่ยว สายการบิน เตอร์กิช แอร์ไลน์ส (น้ำหนักกระเป๋าเดินทาง ไม่เกิน 20 กิโลกรัม/ท่าน)
ค่าภาษีสนามบิน, ค่าภาษีน้ำมัน, ค่าประกันภัยทางอากาศ, ค่าภาษีประเทศตุรกี
ค่าประกันภัยการเดินทางวงเงิน 1,000,000.- บาท(ไม่ครอบคลุมผู้ที่มีอายุเกิน 85 ปี)
ค่าที่พักตลอดการเดินทาง (พักห้องคู่), ค่าอาหารทุกมื้อที่ระบุในโปรแกรม, น้ำดื่มบริการบนรถ วันละ 2 ขวด
ค่าพาหนะ หรือ รถรับ-ส่ง ระหว่างนำเที่ยว, ค่าเข้าชมสถานที่ทุกแห่งตามโปรแกรมระบุ
เจ้าหน้าที่ไกด์คนไทย อำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง
อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม
ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิ ค่าซักรีด, ค่าโทรศัพท์, ค่าแฟกซ์, เครื่องดื่มมินิบาร์ และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ไม่ได้ระบุ
ค่าทิปไกด์ท้องถิ่น (3.00USD/ท่าน /วัน), คนขับรถ (2.00USD/ท่าน /วัน) (คิดเป็น 8วัน รวมเท่ากับ 40 USD)
ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ไทย ท่านละ 3.00 USD/ท่าน /วัน (คิดเป็น 8 วัน รวมเท่ากับ 24 USD)
ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%
เงื่อนไขการจองทัวร์ โปรแกรม โปรโมชั่น ไฮไลท์ ตุรกี 8 วัน
การชำระเงิน งวดที่1:สำรองที่นั่งมัดจำท่านละ 10,000.- บาท ภายใน 3 วันหลังจากทำการจอง
งวดที่2:ชำระส่วนที่เหลือทั้งหมด ภายใน 30 วันล่วงหน้าก่อนออกเดินทาง
กรณียกเลิกทัวร์ โปรแกรม โปรโมชั่น ไฮไลท์ ตุรกี 8 วัน
ยกเลิกก่อนการเดินทาง 31 วัน ไม่เก็บค่าใช้จ่าย (สงกรานต์-ปีใหม่ 45 วัน)
ยกเลิกก่อนการเดินทาง 16-30 วัน หักค่ามัดจำ 10,000+ค่าวีซ่า (ถ้ามี) (สงกรานต์-ปีใหม่ 26-44 วัน)
ยกเลิกก่อนการเดินทาง 10-15 วัน หักค่ามัดจำ 10,000+ค่าใช้จ่ายอื่น (ถ้ามี) (สงกรานต์-ปีใหม่ 20-25วัน)
ยกเลิกก่อนการเดินทาง 4-9 วัน หักค่าใช้จ่าย 50-75% ของค่าทัวร์ (สงกรานต์-ปีใหม่ 4-19วัน)
ยกเลิกก่อนการเดินทาง 1-3 วัน หักค่าใช้จ่าย 100%
หมายเหตุ
- บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกการเดินทาง ในกรณีที่มีผู้เดินทางต่ำกว่า 20 ท่าน โดยจะแจ้งให้ผู้เดินทางทราบล่วงหน้า อย่างน้อย 20 วัน ก่อนการเดินทาง
- บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายการท่องเที่ยว กรณีที่เกิดเหตุจำเป็นสุดวิสัย อาทิ การล่าช้าของสายการบิน การนัดหยุดงาน การประท้วง ภัยธรรมชาติ การก่อจลาจล อุบัติเหตุ ปัญหาการจราจร ฯลฯ ทั้งนี้จะคำนึงและรักษาผลประโยชน์ของผู้เดินทางไว้ให้ได้มากที่สุดเนื่องจากการท่องเที่ยวนี้เป็นการชำระแบบเหมาจ่ายกับบริษัทตัวแทนในต่างประเทศ ท่านไม่สามารถที่จะเรียกร้องเงินคืน ในกรณีที่ท่านปฏิเสธหรือสละสิทธิ์ ในการใช้บริการที่ทางทัวร์จัดให้ ยกเว้นท่านได้ทำการตกลง หรือ แจ้งให้ทราบ ก่อนเดินทาง
- บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น หากท่านถูกปฏิเสธการตรวจคนเข้าเมือง และจะไม่คืนเงินค่าทัวร์ที่ท่านชำระมาแล้ว หากท่านถูกปฏิเสธการเข้าเมือง อันเนื่องจากการกระทำที่ส่อไปในทางผิดกฎหมาย หรือการหลบหนีเข้าเมือง
- ในกรณีที่ท่านจะใช้หนังสือเดินทางราชการ (เล่มสีน้ำเงิน) เดินทางกับคณะ บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบ หากท่านถูกปฏิเสธการเข้าหรือออกนอกประเทศใดประเทศหนึ่ง เพราะโดยปกตินักท่องเที่ยวใช้หนังสือเดินทางบุคคลธรรมดา เล่มสีเลือดหมู
ตั๋วเครื่องบิน
- ในการเดินทางเป็นหมู่คณะผู้โดยสารจะต้องเดินทางไป-กลับหากท่านต้องการเลื่อนวันเดินทางกลับ ท่านจะต้องชำระค่าใช้จ่ายส่วนต่างที่สายการบินเรียกเก็บโดยสายการบิน เป็นผู้กำหนดซึ่งทางบริษัทฯไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้
- และในกรณีที่ยกเลิกการเดินทางถ้าทางบริษัทได้ออกตั๋วเครื่องบินไปแล้วผู้เดินทางต้องรอRefund ตามระบบของสายการบินเท่านั้น(ในกรณีที่ตั๋วเครื่องบินสามารถทำการ Refund ได้เท่านั้น)
- ท่านที่จะออกตั๋วเครื่องบินภายในประเทศเช่นเชียงใหม่ภูเก็ตหาดใหญ่ฯลฯโปรดแจ้งฝ่ายขายก่อนเพื่อขอคำยืนยันว่าทัวร์นั้นๆยืนยันการเดินทางแน่นอนหากท่านออกตั๋วภายในประเทศโดยไม่ได้รับการยืนยันจากพนักงานแล้วทัวร์นั้นยกเลิกบริษัทฯไม่สามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายใดๆที่เกี่ยวข้องกับตั๋วเครื่องบินภายในประเทศได้
- เมื่อท่านจองทัวร์และชำระมัดจำแล้วหมายถึงท่านยอมรับในข้อความและเงื่อนไขที่บริษัทฯแจ้งแล้วข้างต้น
โรงแรมและห้อง
- ห้องพักในโรงแรมเป็นแบบห้องพักคู่(Twin/Double) ในกรณีที่ท่านมีความประสงค์จะพักแบบ 3 ท่าน / 3 เตียง(Triple Room) ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของห้องพักและรูปแบบของห้องพักของแต่ละโรงแรมซึ่งมักมีความแตกต่างกันซึ่งอาจจะทำให้ท่านไม่ได้ห้องพักติดกันตามที่ต้องการหรือ อาจไม่สามารถจัดห้องที่พักแบบ 3 เตียงได้
- โรงแรมหลายแห่งในยุโรปจะไม่มีเครื่องปรับอากาศเนื่องจากอยู่ในแถบที่มีอุณหภูมิต่ำ เครื่องปรับอากาศที่มีจะให้บริการในช่วงฤดูร้อนเท่านั้น
- ในกรณีที่มีการจัดประชุมนานาชาติ (Trade Fair) เป็นผลให้ค่าโรงแรมสูงขึ้น 3-4 เท่าตัว บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนหรือย้ายเมืองเพื่อให้เกิดความเหมาะสม
กระเป๋าเล็กถือติดตัวขึ้นเครื่องบิน
- กรุณางดนำของมีคมทุกชนิด ใส่ในกระเป๋าใบเล็กที่จะถือขึ้นเครื่องบินเช่นมีดพับกรรไกรตัดเล็บทุกขนาดตะไบเล็บเป็นต้น กรุณาใส่ในกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ ห้ามนำติดตัวขึ้นบนเครื่องบินโดยเด็ดขาดวัตถุที่เป็นลักษณะของเหลวอาทิครีมโลชั่นน้ำหอมยาสีฟันเจลสเปรย์และเหล้าเป็นต้นจะถูกทำการตรวจอย่างละเอียดอีกครั้งโดยจะอนุญาตให้ถือขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 10 ชิ้นในบรรจุภัณฑ์ละไม่เกิน 100 ml. แล้วใส่รวมเป็นที่เดียวกันในถุงใสพร้อมที่จะสำแดงต่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตามมาตราการองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO)
- หากท่านซื้อสินค้าปลอดภาษีจากสนามบินจะต้องปิดผนึกถุงโดยระบุวันเดินทางเที่ยวบินจึงสามารถนำขึ้นเครื่องได้และห้ามมีร่องรอยการเปิดปากถุงโดยเด็ดขาด
สัมภาระและค่าพนักงานยกสัมภาระ
- สำหรับน้ำหนักของสัมภาระที่ทางสายการบินอนุญาตให้โหลดใต้ท้องเครื่องบินคือ 20 กิโลกรัม (สำหรับผู้โดยสารชั้นประหยัด/ Economy Class Passenger ซึ่งขึ้นกับแต่ละสายการบิน) การเรียกเก็บค่าระวางน้ำหนักเพิ่มเป็นสิทธิ์ของสายการบินที่ท่านไม่อาจปฎิเสธได้หาก น้ำหนักกระเป๋าเดินทางเกินกว่าที่สายการบินกำหนด
- สำหรับกระเป๋าสัมภาระที่ทางสายการบินอนุญาตให้นำขึ้นเครื่องได้ต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัมและมีความกว้าง
( 9.75นิ้ว ) + ยาว( 21.5นิ้ว ) + สูง ( 18 นิ้ว )
- ในบางรายการทัวร์ที่ต้องบินด้วยสายการบินภายในประเทศน้ำหนักของกระเป๋าอาจจะถูกกำหนดให้ต่ำกว่ามาตราฐานได้ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของแต่ละสายการบินบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับภาระ ความรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในน้ำหนักส่วนที่เกิน
- กระเป๋าและสัมภาระที่มีล้อเลื่อนและมีขนาดใหญ่เกินไปไม่เหมาะกับการเป็นกระเป๋าถือขึ้นเครื่องบิน (Hand carry)
การชดเชยค่ากระเป๋าในกรณีเกิดการสูญหาย
- ของมีค่าทุกชนิด ขอแนะนำไม่ควรใส่เข้าไปในกระเป๋าใบใหญ่ที่เช็คไปกับเครื่อง เพราะหากเกิดการสูญหาย สายการบินจะรับผิดชอบชดใช้ตามกฎไออาต้าเท่านั้น ซึ่งจะชดใช้ให้ประมาณ กิโลกรัมละ 20 USD คูณด้วยน้ำหนักกระเป๋าจริง ทั้งนี้จะชดเชยไม่เกิน USD 400 กรณีเดินทางชั้นธรรมดา (Economy) หรือ USD 600 กรณีเดินทางชั้นธุรกิจ (Business) ดังนั้นจึงไม่แนะนำให้โหลดของมีค่าทุกประเภทลงกระเป๋าใบใหญ่
- กรณีกระเป๋าใบใหญ่เกิดการสูญหายระหว่างการท่องเที่ยว (ระหว่างทัวร์ ไม่ใช่ระหว่างบิน) ซึ่งอยู่ในความความรับผิดชอบของหัวหน้าทัวร์ โดยปกติประกันภัยการเดินทางที่บริษัททัวร์ได้จัดทำให้ลูกค้าจะไม่ครอบคลุมค่าชดเชยในกรณีกระเป๋าใบใหญ่สูญหาย อย่างไรก็ตาม บริษัทฯจะพิจารณาชดเชยค่าเสียหายให้ท่าน โดยชดใช้ตามกฎของสายการบินเท่านั้น นั่นหมายถึงจะชดเชยตามน้ำหนักกระเป๋า คูณ ด้วยค่าชดเชย USD 20 ต่อกิโลกรัมเท่านั้น ดังนั้นท่านจึงไม่ควรโหลดของมีค่าทุกประเภทในกระเป๋าใบใหญ่ เพราะหากเกิดการสูญหาย ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์การชดเชยค่าเสียหายตามรายระเอียดข้างต้นเท่านั้น
กรณีกระเป๋าใบเล็ก (Hand Carry) เกิดการสูญหาย บริษัทฯ ไม่สามารถรับผิดชอบชดเชยค่าเสียหายให้ท่านได้ ดังนั้นท่านต้องระวังทรัพย์สินส่วนตัว